หลวงปู่มหาบุญมี ติสสวโร

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ประวัติหลวงปู่มหาบุญมี ติสฺสวโร


หลวงปู่มหาบุญมี   ติสฺสวโร
วัดป่าสันติวัน  ต.ท่าสองคอน  อ.เมือง  จ.มหาสารคาม
พระผู้เปี่ยมด้วยบารมีธรรม  เมตตาธรรม
                                                                                                                             
     หลวงปู่มหาบุญมี  ติสฺสวโร  ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ก๋วน  อัคฺควโย  แห่งวัดตะเคียนทองธาราม  ต.แกลง  อ.เมือง  จ.ระยอง  หลวงปู่ท่านจะปฏิบัติธรรมด้านวิปัสสนากรรมฐาน  ยุบหนอ  พองหนอ การปฏิบัติธรรมสายนี้จะลำดับสมาธิและญาณ16 ของโยคี ผู้ดำเนินทางสมถะวิปัสสนา หลวงปู่มหาบุญมี ท่านมีสหายธรรมเป็นศิษย์สายเดียวกับท่าน ได้แก่ 
1.หลวงพ่อน้ำเพชร    มหาลาโภ    วัดตะเคียนทอง  ต.แกลง  อ.เมือง   จ.ระยอง
2.พระอาจารย์ต้อย พระอาจารย์เมิน วัดตะเคียนทอง ต.แกลง  อ.เมือง   จ.ระยอง        
3.หลวงพ่อสันต์   วัดถ้ำเขาตะแบก   บ้านค่าย  จ.ระยอง  
4.หลวงพ่อสันติ  เตชปญโญ   วัดพระธาตุสันติธรรม  ดอยแม่สลอง  จ.เชียงราย           
5.หลวงพ่อนพ  วัดถ้ำเขาชะอางค์  กิ่ง อ.เขาชะเมา  จ.ระยอง  
6.หลวงพ่อสมคิด  วัดศรีพุ่มโพธิ์   จ.ชลบุรี  
7.หลวงพ่อไพรสณฑ์      วัดโคกหลวง  จ.ราชบุรี
       หลวงปู่มหาบุญมี ท่านเคร่งครัดพระธรรมวินัยมากท่านหนึ่ง  ซึ่งท่านได้ออกบวชบรรพชาเป็นสามเณรก่อน พร้อมทั้งศึกษาพระธรรมวินัยจวบจนอายุท่านได้21ปี ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ หลวงปู่มหาบุญมี  ท่านได้ศึกษาธรรมและวิชาการต่างๆ ตามแนวทาง   การสั่งสมบารมีธรรม เมตตาธรรม  นับเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์อีกองค์หนึ่ง ที่มีปฏิปทา อันน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ท่านมีเมตตาจิตอย่างสูงต่อลูกศิษย์และญาติโยมทุกคนที่มากราบไหว้ท่านเสมอ   จนเป็นที่ศรัทธาของสาธุชนในวงกว้าง
      หลวงปู่มหาบุญมี ท่านเป็นพระนักปฏิบัติเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ท่านเป็นพระเถระที่มีชีวิตเรียบง่าย สมถะ ไม่ทะเยอทะยาน ไม่ถือตัวเป็นพระที่มีบารมีธรรม  เมตตาธรรม  พูดจาไพเราะ  ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา  มีสมณะสัญญา  สันโดษ  มักน้อย  เคร่งครัดในสิกขาวินัย  ยินดีในสิ่งที่ได้  ใช้ในสิ่งที่มี  ยินดีและพอใจ    ชอบช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้อื่น  ด้วยเมตตาธรรมและคุณลักษณะอื่นๆ อันเป็นส่วนสังคหะธรรมปฏิบัติเป็นกันเองกับทุกคน  จึงเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะศรัทธาของญาติโยมโดยทั่วไป  ซึ่งท่าน สละประโยชน์  สละสุขส่วนตัว  เพื่อประโยชน์ของส่วนร่วมมาโดยตลอด ไม่ยินดียินร้ายในลาภ ยศ สรรเสริญ นับเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่หาได้ยาก เพราะด้วยการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน จึงได้รับผลที่แน่นอนนั่นเอง ท่านเป็นพระที่สมถะสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่โดยตลอด ใครมีความเดือดเนื้อร้อนใจมีอุปสรรคปัญหาในชีวิต  ถ้ามีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านแล้ว  จะเกิดความสบายใจบันดาลผลให้เกิดความสุขใจอย่างคาดไม่ถึง  หลวงปู่ท่านจะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากและมีความเดือดร้อนโดยถ้วนหน้า  ไม่เลือกชั้นวรรณะ  ใครไปขอความช่วยเหลืออะไร  หากท่านมีหรือช่วยเหลือได้ท่านก็จะช่วยเหลือเสมอทุกคน  ไม่เคยแสดงถึงความเหนื่อยและเบื่อหน่ายหรือรำคาญให้ผู้ไปหาได้พบเห็นจะมีแต่รอยยิ้มด้วยความเมตตาปราณีตลอดเวลา

(ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2555 ถึง วันที่ 5 พ.ย. 2555 หลวงปู่ท่านจำพรรษาที่วัดป่าบ้านโนนงิ้ว  ต.หนองสนิท  อ.จอมพระ จ.สุรินทร์)


คติธรรมหลวงปู่.....

จงมีเกินใช้.....อย่าใช้เกินมี....
ชีวิตนี้สั้น    ต้องรีบทำความดีแต่วันนี้....
ความตายเป็นของธรรมดา  แต่ไม่ธรรมดา  เพราะตายแล้วเกิด
เกิดเป็นการ   นับภพ  นับชาติ  จงหมั่นทำความดีประพฤติดีในศีลธรรม...
ผู้ประพฤติธรรมเท่านั้น  ที่จะพ้นจากทุกข์
อยากรวย  ให้  พากันทำทาน
อยากสวย  ให้  พากันรักษาศีล
อยากมีปัญญาดี  ให้  พากัน  เจริญภาวนา......

ชาติภูมิ
หลวงปู่มหาบุญมี   ติสฺสวโร หรือ (พระครูประดิษฐ์ธรรมสาร) ท่านเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์  ถิ่นช้างใหญ่  มีชาติกำเนิดในสกุล สุวงค์    หลวงปู่มหาบุญมี  ท่านมีนามเดิมว่า  บุญมี  นามสกุล  สุวงค์  เกิดเมื่อวันเสาร์ที่  2  พฤษภาคม  พ.ศ. 2483  บ้านเลขที่  5  หมู่ที่ 7  บ้านโนนงิ้ว    ต.หนองสนิท   อ.จอมพระ  จ.สุรินทร์
โยมบิดาชื่อ นายทอง   สุวงค์   โยมมารดาชื่อ นางหยวก  สุวงค์ โยมบิดา       โยมมารดาของหลวงปู่  มีอาชีพทำนาและปลูกพืชไร่  หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดา จำนวน 8 คน  เป็นชาย  5 คน  และหญิง 3  คน    มีชื่อเรียงกันตามลำดับดังนี้                                                                                        
1. ตัวท่านเอง (หลวงปู่มหาบุญมี   ติสฺสวโร)     
2. นางจำปี   สุวงค์-- 
3. นายสาลี    สุงค์--------------                                                                                                                                    
4. นางบุญมา  สุวงค์-5.อาจารย์พรหมมา สุวงค์----
6. นางบัวลา   สำราญรมย์--7.อาจารย์เสงี่ยม     สุวงค์-----------------------------------------------------------------------------                                                                                                                ----------------------------------------------------------------------------


จิตโน้มน้าวไปสู่ธรรม
หลวงปู่มหาบุญมี  ท่านมีความฝักใฝ่ในทางธรรม     และอยากบวชมาตั้งแต่เด็ก  รวมทั้งอยากเดินทางท่องเที่ยวไปต่างแดนด้วย  เมื่อท่านอายุได้ 15 ปี  ท่านจึงขออนุญาตมารดา บวชเป็นสามเณรเพื่อที่ท่านจะได้ศึกษาเล่าเรียน
หลวงปู่ท่านบรรพชา   เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2498  ณ วัดสว่าง              อ.จอมพระ  จ.สุรินทร์ 
มีพระครูปริสุทธยาจารย์  วัดสว่าง  เป็นพระอุปัชฌาย์ 
หลังจากบรรพชาแล้ว  สามเณรบุญมีก็ได้ศึกษาพระธรรมและถวายอุปัฏฐากครูอาจารย์ในวัดแห่งนั้น   ด้วยกิริยามารยาทที่สงบเสงี่ยม  สุภาพ  เยือกเย็นและพูดน้อย  ท่านจึงเป็นที่รักของครูอาจารย์และบรรดาพระสงฆ์ในวัด
ครั้นเมื่อท่านอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์   ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ       ณ วัดสว่าง   ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์
หลวงปู่ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ  เมื่อวันที่ 23 มีนาคม  พ.ศ.2503  
มีพระครูโอภาสวุฒาจารย์  เป็นพระอุปัชฌาย์  ได้รับฉายาว่า  ติสฺสวโร


1 ความคิดเห็น: